วิธีควบคุมอารมณ์ ความคิดพลิกชีวิตตามหลักจิตวิทยา

            “ มีดหนึ่งเล่มสามารถเป็นเครื่องมือประกอบอาหาร และเครื่องมือที่ใช้ทำร้ายคนอื่นในเวลาเดียวกัน มีดเล่มนั้นจะเกิดประโยชน์หรือเกิดโทษก็ขึ้นอยู่กับคนที่จับมืดนั่นแหละ “ ทุกสิ่งบนโลกมาสามารถสร้างได้ทั้งประโยชน์และโทษในเวลาเดียวกัน คนที่จะเลือกว่าบางสิ่งบางอย่างจะถูกนำมาใช้สร้างประโยชน์ หรือนำมาสร้างความเดือดร้อนก็คือ “ ผู้ใช้ “ ที่มีอำนาจในการควบคุมของสิ่งนั้น บางครั้งจนลืม วิธีควบคุมอารมณ์ ของตนเองเช่นกัน

            ร่างกายของคนเราก็เปรียบได้เหมือน “ สิ่งของ “ อย่างหนึ่งที่สามารถสร้างประโยชน์ก็ได้ และสามารถสร้างโทษได้ในเวลาเดียวกัน และสิ่งที่เป็นผู้ควบคุมก็คือ “ อารมณ์ “ ของเรานั่นเองที่เป็นตัวตัดสินว่าศักยภาพของเรานี้จะสามารถนำออกมาใช้สร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง กับสังคมรอบข้าง กับคนที่คุณรัก หรือคุณจะใส่ศักยภาพของคุณทำร้ายคนรอบข้าง จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้องค์กรหลาย ๆ องค์กรในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความฉลาดทางอารมณ์ ( EQ ) มากพอ ๆ กับ ความฉลาดทางปัญญา ( IQ ) เลยทีเดียว ซึ่งจะสามารถสังเกตได้จากการระบุอย่างชัดเจนในองค์ประกอบเวลาสมัครงานว่าต้องมีคุณสมบัติทางอารมณ์ที่ดี หรือตอนที่สัมภาษณ์งานก็จะเจอคำถามที่ใช้วัดศํกยภาพและไหวพริบทางอารมณ์ เพราะไม่ว่าคุณจะมีความสามารถแค่ไหน หรือคุณจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และไม่มีความฉลาดทางอารมณ์มากพอ ศักยภาพที่คุณมีก็คงจะไม่ได้ถูกนำมาสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้ตามที่องค์กรคาดหวังกับคุณเอาไว้

          นอกจากการใช้ศักยภาพของตัวเองแล้ว การมีความฉลาดทางอารมณ์ที่ดียังทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เชื่อว่าอย่างไรก็ตามทุกคนก็อยากจะอยู่กับคนที่มีสภาพอารมณ์ที่ดี สร้างพลังงานบวกให้กันอยู่เป็นประจำ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กัน มากกว่าการอยู่กับคนที่คอยบั่นทอน คอยตัดกำลังใจ หรือที่เรียกว่าเป็นคนที่ Toxic นั่นแหละ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในปัจจุบันผู้คนจะหันมาให้ความสนใจกับการจัดการและควบคุมอารมณ์กันมากขึ้น

วิธีควบคุมอารมณ์ สำคัญกับความสำเร็จอย่างไร

             เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าสภาวะอารมณ์ของคุณดี คุณจะสามารถสร้างผลลัพธ์อะไรก็ตามที่คุณต้องการได้ แต่ถ้าหากว่าคุณควบคุมอารมณ์ไม่ได้ คุณจัดการกับสภาวะอารมณ์ไม่ได้ ต่อให้คุณจะมีศักยภาพพร้อมแค่ไหนก็ตาม คุณก็จะไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่คุณต้องการหรือคาดหวังได้เลย

             หลายคนพอได้ยินคำว่าการควบคุมอารมณ์อาจจะคิดถึงการควบคุมอารมณ์ไม่ให้อารมณ์ร้อน ไม่ให้ลงไม้ลงมือกับคนอื่น ไม่ให้โกรธหรือโมโห แต่อารมณ์ของเรามีหลากหลายรูปแบบมากกว่าแค่อารมณ์โกรธที่ทำให้บันดาลโทสะขึ้นมา และอารมณ์ทุกอย่างของเราเหล่านั้นมีผลทำให้การกระทำและความคิดของเราเปลี่ยนไป เพราะอารมณ์ของเราเป็นสิ่งที่กำหนดความคิดของเรา ความคิดของเราเป็นสิ่งที่กำหนดการกระทำของเรา และการกระทำของเราคือสิ่งที่กำหนดผลลัพธ์ที่เราจะได้นั่นแหละ ดังนั้นคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาสามารถควบคุมผลลัพธ์ในชีวิตของเขาได้นั่นเอง

ความรู้สึกด้านลบ 4 ประเภท

             ก่อนที่จะ “ จัดการ “ หรือ “ ควบคุม “ อะไรสักอย่าง เราจำเป็นจะต้องทำความรู้จักกับสิ่งที่เราต้องจัดการกับมันเสียก่อน อารมณ์ก็เช่นกัน บางคนพยายามจัดการกับอารมณ์ตัวเอง ควบคุมอารมณ์ตัวเอง โดยที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับตัวเองก่อนด้วยซ้ำว่า “ อารมณ์ “ คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ?

             ต้นเหตุของการเกิดอารมณ์หรือความรู้สึกใด ๆ ก็ตาม มาจากประสบการณ์ในอดีตทั้งสิ้น ซ฿งประสบการณ์ในอดีตเกิดขึ้นจากการที่สมองของเรา “ ตีความ “ เหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ “ ให้ความหมาย “ กับเหตุการณ์นั้น ๆ

สิ่งที่น่าสนใจในกระบวนการนี้ก็คือการ “ ตีความ “ ที่เกิดขึ้นในการรับข้อมูลของสมองเรา เมื่อมีเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้น และตกกระทบกับเรา ก่อนที่สมองเราจะบันทึกข้อมูลนั้นไว้ จะมีการ “ ตีความ “ เกิดขึ้น ซึ่งการตีความนี้แบ่งออกได้เป็นสามประเภทคือ

  • Delete ( ลบทิ้ง ) : บางสิ่งบางอย่างที่ขัดกับมุมมองและความเชื่อของเรา จิตใต้สำนึกของเราจะเลือก “ ลบ “ สิ่งนั้นทิ้งออกไปทันที เพื่อให้ข้อมูลที่รับเข้ามา “ ตรง “ กับความเชื่อของเรา
  • Distort ( บิดเบือน ) : การเปลี่ยนแปลง / บิดเบือนความหมายของเหตุการณ์ คำพูด หรือข้อมูลที่ได้รับ
  • Generalize ( เหมารวม ) : การเหมารวมว่า ทุกอย่างที่มีองค์ประกอบเหมือนสิ่งที่ฉันเชื่อ ก็ต้องเป็นแบบนั้นทุกอย่างนั่นแหละ เช่น ผู้หญิงคนหนึ่งเชื่อว่าผู้ชายมีนิสัยเจ้าชู้ ผู้หญิงคนนั้นก็จะมองเหมารวมทั้งหมดทันทีว่า “ ผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ “ โดยที่มองข้ามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เจ้าชู้

การตีความจะทำให้จิตใต้สำนึกของเราสร้าง “ ประสบการณ์ “ บางอย่างบันทึกเอาไว้ และประสบการณ์เหล่านั้นจะก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบ 4 ประเภท ที่อาจจะกำลังกัดกินและขัดขวางการเติบโตในชีวิตของคุณอยู่ ในเชิงขิตวิทยาสื่อประสาทเราเปรียบเทียบความรู้สึกด้านลบนี้ไว้เหมือนหิน 4 ก้อน

1. Negative thinking

             ก้อนแรกเป็นก้อนที่เกี่ยวกับความคิดด้านลบที่มีให้กับตัวเอง การมองว่าตัวเองไม่มีศักยภาพ ตัวเองไม่ดีพอ ตัวเองไม่มีวาสนา ฯลฯ การมีความคิดลบ ๆ เหล่านี้จะทำให้คุณหมดศรัทธาในศักยภาพของตัวเอง ถ้าหากว่าคุณมีความคิดด้านลบกับตัวเอง การสร้างผลลัพธ์อาจจะเป็นเรื่อยที่ท้าทายสักหน่อย เพราะคุณจะคิดอยู่เสมอว่าคุณนั้นไม่คู่ควรกับผลลัพธ์เหล่านั้น

 2. Negative emotions

             อารมณ์มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งอารมณ์ที่เป็นอารมณ์ด้านลบก็มีอยู่หลายระดับด้วยกัน ตั้งแต่ โกรธ , กลัว , เศร้า , รู้สึกผิด , เจ็บปวด , ถูกทรยศ ซึ่งอารมณ์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญให้ร่างกายแสดงพฤติกรรมบางอย่างออกมาและพฤติกรรมเหล่านั้นนั่นแหละที่จะเป็นตัวกำหนดการกระทำของเรา และการกระทำของเราก็จะเป็นตัวตัดสินผลลัพธ์ในชีวิตของคุณ

 3. Limiting beliefs

             บางครั้งชีวิตของเราก็ถูกจำกัดเอาไว้ด้วยความเชื่อของเราเอง เพราะความเชื่อของเราจะสร้าง “ ความจริง “ ที่เป็นเหมือนกับโลกของเราทั้งใบ เช่น ถ้าหากว่าคุณมีความเชื่อว่า “ เงินทองเป็นของหายาก “ คุณก็จะมองเห็นแต่อาชีพที่ไม่ได้สร้างรายได้ในระดับที่คุณพอใจ หรือถ้าหากว่าคุณเชื่อว่า “ คุณหุ่นดีไม่ได้หรอก “ คุณเองก็จะไม่แม้แต่จะพยายามเริ่มมองหาวิธีดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยซ้ำ

 4. Inner conflict

             การมีทางเลือกเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป บางครั้งในชีวิตของเรา เราก็มักจะมีปีญหาเกี่ยวกับการตัดสินใจว่า “ ฉันจะเรื่องไหนดี “ เพราะชีวิตคุณก็มีเรื่องสำคัญหลายเรื่อง และบางครั้งคุณก็ไม่ได้มีทรัพยกรมากพอที่จะจัดการและรับผิดชอบเรื่องเหล่านั้นได้ตลอดเวลา

วิธีควบคุมอารมณ์ ลบแบบจิตวิทยา

             “ สติ “ เป็นองค์ประกอบหลักที่จะทำให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ เพราะว่าการที่จะควบคุมอารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น คุณจำเป็นจะต้องรับรู้ให้ได้ว่าอารมณ์ไหน กำลังเกิดอยู่ในตัวของคุณ ความคิดที่ก่อให้เกิดอารมณ์นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนคนส่วนใหญ่ไม่ทันความคิดเหล่านี้ของตัวเอง จะมารู้ตัวอีกทีก็เป็นอารมณ์ที่สร้างสภาวะทางลบให้กับเราไปเสียแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าคุณไม่ได้ฝึกสติให้ดีแล้ว คุณจะไม่มีทางจับความคิดเหล่านั้นได้ทันเลย 

การนั่งสมาธิเป็นหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เราสามารถหันมาจดจ่ออยู่กับ “ ปัจจุบัน “ ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำสมาธิของทุกคนก็มีอยู่หลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ การออกกำลังกาย ฯลฯ กิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้จิตใจเราสงบ

เมื่อจิตใจเราสงบ สิ่งต่อมาที่เราควรจะต้องเริ่มทำก็คือการ “ คุยกับตัวเอง “ เพราะการคุยกับตัวเองจะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้ตั้งคำถามกับตัวของคุณเองจริง ๆ ว่าอารมณ์แบบไหนกำลังเกิดขึ้นในตัวคุณอยู่ และความคิดแบบไหนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์เหล่านี้ขึ้น และความลับที่จะทำให้เราสามารถเข้าใจและควบคุมอารมณ์ของเราได้อยู่ที่จุดนี้ “ เพราะความคิดและอารมณ์ เกิดขึ้นเพื่อเตือนและสื่อสารกับเรา “ อารมณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อบอกอะไรบางอย่างกับเรา ความคิดทุกอย่างที่ก่อให้เกิดอารมณ์เหล่านั้นถูกดึงออกมาจากประสบการณ์ในอดีตเพื่อเตือนเรา และถ้าหากว่าคุณสามารถรับข้อความนั้นได้ พลังในการตัดสินใจจะอยู่ที่ตัวของคุณแล้วว่าคุณจะใช้ข้อมูลที่ได้จากอารมณ์ของคุณอย่างไร คุณจะจัดการกับคำเตือนเหล่านั้น หรือคุณจะแค่รับรู้แล้วก็วางความคิดตรงนั้นเอาไว้เฉย ๆ และเมื่อคุณได้รับสาร ก็หมายความว่าคุณ “ ทัน “ ความคิดของตัวเองแล้ว ซึ่งนั่นแหละคือการ “ ควบคุมอารมณ์ “ อย่างแท้จริง

การเปลี่ยนแปลงหลังจากเปลี่ยนอารมณ์

             หลังจากที่คุณควบคุมอารมณ์ได้แล้ว คุณจะพบว่าทุกอย่างในโลกของคุณจะ “ ง่าย “ ขึ้นในทันที จากความจริงที่ถูกอารมณ์ของคุณบิดเบือนให้เป็นไปตามความเชื่อของตัวเอง กลายเป็นความจริงที่คุณสามารถมองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง คุณจะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยความเชื่อ คุณจะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอารมณ์ที่บดบังสายตาของคุณอยู่ และคุณจะรู้สึกว่าทุกอย่างมัน “ ง่าย “ เสียเหลือเกิน

เมื่อคุณเท่าทัน คุณก็จะสามารถควบคุมได้ และเมื่อคุณสามารถควบคุมได้คุณก็จะสามารถสร้างผลลัพธ์และความสำเร็จที่คุณต้องการให้กับตัวคุณเองได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร และเมื่อคุณจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้นอกจากคุณจะใช้ชีวิต “ ง่าย “ แล้ว คนรอบตัวคุณก็ยังใช้ชีวิตร่วมกันกับคุณได้ “ ง่าย “ ขึ้นไปด้วย ใครที่เคยเรียนในคลาสต่าง ๆ ของผม ไม่ว่าจะเป็นทักษะโค้ชชิ่ง การสะกดจิตบำจัด หรือแม้แต่จิตวิทยาสื่อประสาท ผมจะย้ำเสมอว่า เมื่ออารมณ์เปลี่ยนผลลัพธ์เปลี่ยน จริง ๆ ในมุมอารมณ์และความเชื่อมันมีเรื่องเชื่อมกันอยู่ ซึ่งถ้าคุณรู้จักวิธีควบคุมอารมณ์ตัวเอง ความสำเร็จที่คุณต้องการมันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเลยครับ ยกตัวอย่างเช่น ตื่นเช้ามาคุณหงุดหงิดกับข่าวสารหรืองานที่ต้องทำ Mood อารมณ์ของคุณในวันนั้นก็จะเต็มไปด้วยความหงุดหงิด มองอะไรก็ดูยากไปหมด เป็นไปไม่ได้ไปหมดทุกเรื่อง ความสำเร็จใจวันนั้นก็จะไม่เกิดจริงไหมครับ? 

แต่ถ้าคุณตื่นเช้ามาอารมณ์ดี เต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ วันนั้นทั้งวันก็จะเป็นวันที่คุณแฮปปี้ และประสบความสำเร็จในโกลว์ประจำวัน เห็นไหมครับว่า วิธีควบคุมอารมณ์ตัวเองสำคัญขนาดไหน และถ้าคุณยังไม่เคยเรียนกับ LifeEnricher คุณก็สามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ไม่ยากครับ เพราะผมได้ให้ข้อมูลผ่านบทความ Podcast หรือแม้แต่ใน Youtube คุณก็สามารถเรียนรู้ได้แบบฟรี ๆ 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @LifeEnricher

Facebook: TheLifeEnricher

โทร: 02-017-2758, 094-686-6599

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า