
วิธีเป็นผู้บริหารที่รักษาคำพูด
คนหนึ่งคนจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าผู้นำได้จริง ๆ ถ้าหากว่าพวกเขาไม่มี “ ทีมงาน “ ที่คอยเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนองค์กรให้สร้างผลลัพธ์ได้ตามเป้าหมาย หลายคนเข้าใจว่าการเข้าทำงานเป็นผู้นำเท่านั้นที่เลือกทีมงานเข้ามาร่วมงานด้วยกัน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เพียงแค่คุณที่เลือกเขา แต่เขาก็จำเป็นจะต้องเลือกคุณด้วยเหมือนกัน เพราะปัจจุบันไม่ได้มีการใช้แรงงานโดยที่ต่อต้านความสมัครใจเหมือนในอดีตที่มีระบบแรงงานทาสอีกแล้ว ลูกจ้างและทีมงานทุกคนจะต้องมีเหตุผลจูงใจมากพอที่จะร่วมเดินทางไปกับคุณ ซึ่งองค์ประกอบที่จะทำให้คนหลายคนมารวมกันเป็นทีมงานได้ก็มีหลายอย่าง ทุกคนมีเป้าหมายตรงกัน ทุกคนมาแรงผลักดันในการทำงานเหมือนกัน มีอุดมการณ์เหมือนกัน และที่สำคัญก็คือ “ ความไว้วางใจ ” ที่มีต่อกัน
เพราะถ้าหากว่าทีมงานไม่มีความไว้วางใจต่อกันแล้ว คุณคิดว่าการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นได้ไหม ? ในเมื่อคุณเลือกทีมงานคุณภาพที่มีศักยภาพแตกต่างกันออกมารับผิดชอบงานคนละส่วน ให้แต่ละคนรับผิดชอบจิ๊กซอว์ส่วนของตัวเองเพื่อเอามาประกอบเป็นผลลัพธ์ของส่วนรวม แต่ถ้าหากว่าพวกเขาไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ผลลัพธ์นั้นก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดูไกลเกินเอื้อมเหลือเกิน ซึ่งหากว่าคุณคิดว่าปัญหการไม่ไว้วางใจกันในทีมงานแย่แล้ว สิ่งที่แย่จริง ๆ ก็คือการไม่ไว้วางใจในผู้นำของพวกเขาต่างหาก ปัญหาระหว่างทีมงานยังพอเข้าใจว่าทัศนคติบางเรื่องอาจจะไม่ตรงกัน แต่การไม่ไว้วางในผู้นำนั่นหมายความว่าทีมของคุณหมดความไว้วางใจในองค์กรเป็นที่เรียบร้อย วิสัยทัศน์ อุดมการณ์ เป้าหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาเคยคาดหวังจากองค์กรจะหายไปทันทีถ้าหากว่าพวกเขาหมดความไว้วางใจในผู้บริหาร ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะสร้างและทำลายความไว้วางใจที่มีให้กันก็คือ “ คำพูด “ นั่นเอง
ทำไมเป็นผู้บริหารต้องรักษาคำพูด
ในฐานะผู้บริหาร แน่นอนว่าตำแหน่งหน้าที่ของคุณถูกออกแบบมาเพื่อบริหารการทำงานของทีมงานในองค์กรของคุณ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องได้รับการไว้วางใจมากพอที่จะได้รับความร่วมมือที่เคร่งครัดจากทีมงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบหรือนโยบายใด ๆ ก็ตาม เพราะถ้าหากว่าคุณไม่รักษาคำพูดแล้วละก็ จะเหลือเหตุผลอะไรให้ทีมงานของคุณไว้ใจและปฏิบัติตามคำพูดของคุณ ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถสร้างกฏขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ได้ คุณอาจจะต้องระวังความคิดของคุณดี ๆ เพราะกฏไม่สามารถรักษาทีมงานของคุณเอาไว้ได้ ถ้าคุณไม่รักษาคำพูด ไม่ได้รับความไว้วางใจจากทีมงานของคุณ พอทีมงานของคุณเริ่มไม่มั่นใจ เริ่มไม่ทำตาม คุณก็เลือกที่จะเอากฏมาควบคุมพวกเขาเอาไว้ ลองคิดกลับกันดูว่าถ้าหากว่าคุณถูกใครบางคนบังคับกดขี่ให้ทำตามคำพูดที่คุณไม่ได้ให้คุณค่า คุณจะยังปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นไหม คำตอบก็คือไม่เลย บุคลากรที่มีศักยภาพสูงหลายคนเป็นที่ต้องการของตลาด และแน่นอนว่าพวกเขาก็มีทางเลือกที่จะออกไปหาผู้นำที่พวกเขาสามารถไว้วางใจได้และร่วมทำงานด้วยกันได้
นอกจากทีมงานแล้ว คู่ค้าทางธุรกิจของคุณก็จะตัดสินคุณจากคำพูดเช่นเดียวกัน เพราะในการทำธุรกิจร่วมกันผลลัพธ์และผลประโยชน์คือองค์ประกอบหลักที่ทำให้ความสัมพันธ์นี้ยังดำเนินต่อไปได้ ถ้าหากว่าคุณให้คำพูดเอาไว้ว่าอย่างไร แน่นอนว่าคู่ค้าของคุณก็จะต้องคาดหวังกับผลลัพธ์ที่ออกมาเช่นกัน ซึ่งถ้าหากว่าคำพูดนั้นไม่ถูกรักษาเอาไว้ละก็ คุณคงจะไม่สามารถคาดหวังให้ความสัมพันธ์นี้ดำเนินต่อไปได้อย่างแน่นอน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะไม่มีใครตั้งใจจะไม่รักษาคำพูดชนิดที่คิดว่าตั้งใจจะละเลยคำพูดนี้ไปเลยจริง ๆ แต่บางครั้งการผิดคำพูดก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ สิ่งที่ทำให้คุณรักษาคำพูดไม่ได้อาจจะเป็นปัจจัยง่าย ๆ ที่คุณอาจมองข้ามไป ลองพิจารณา 4 เทคนิคต่อไปนี้กับตัวคุณดูว่าคุณมีส่วนไหนที่สามารถพัฒนาได้บ้าง
4 วิธีในการรักษาคำพูด
1. มีสติกับบทสนทนา
บางครั้งเรามักจะถูกบทสนทนานำพาให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบและทำให้เราให้คำสัญญาบางอย่างโดยที่เราอาจจะไม่ได้เข้าใจกับมันจริง ๆ หรือบางคนลั่นวาจาเอาไว้ด้วยความคึกชั่วขณะแต่หลังจากนั้นก็หมดไฟไปเสียเฉย ๆ ซึ่งทางออกก็ดูไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพียงแค่คุณหยุดคิดสักนิดว่าก่อนจะให้คำสัญญานั้นคุณต้องการผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากคำพูดของคุณแค่ไหน หรือลองพิจารณาว่าคุณมีเวลาหรือทรัพยากรที่จำเป็นมากพอที่จะทำให้คำสัญญญานั้นเป็นจริงได้ไหม ? แต่สุดท้ายแล้วถ้าหากว่าคุณไม่มีสติในวงบทสนทนา เรื่องง่าย ๆ อย่างการพิจารณาองค์ประกอบที่กล่าวมาเมื่อครู่ก็อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเลยก็ได้
2. วางแผนเพื่อทำตามคำสัญญา
บางครั้งเป้าหมายที่เราอยากจะพุ่งไปหาก็มีหลายเรื่องเสียเหลือเกิน ชีวิตของผู้บริหารก็คงจะไม่ได้มีความรับผิดชอบเพียงหยิบมือ ดังนั้นการวางแผนจึงเป็นเรื่องสำคัญ วันกำหนดสัญญานั้นคือวันไหน คุณมีเวลามากพอหรือไม่ที่จะทำตามสัญญานั้น คุณจำเป็นจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้คำสัญญานั้นเป็นจริงให้ได้
3. จริงใจกับคำพูด
แน่นนอนว่าคำพูดเป็นปัจจัยใหญ่ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ และหลาย ๆ ครั้งเมื่อเราอยากจะให้ตัวของเราเอง “ เป็น “ ในสิ่งที่คนอื่นคาดหวังมากจนเกินไป คุณอาจจะพบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในกับดักที่ตัวเองสร้างเอาไว้ด้วยคำสัญญาของตัวเองอยู่ก็เป็นได้
ในการทำงาน “ ความประทับใจ “ เป็นเรื่องสำคัญ และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนที่ผลลัพธ์จะเกิดขึ้น ความประทับใจแรกนั้นมาจากคำพูด และหลายครั้งคุณพยายามจะสร้างความประทับใจนี้มากจนคุณพูดสิ่งที่คุณไม่ได้อยากจะทำ สัญญาว่าจะเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากจะเป็นจริง ๆ การพยายามที่จะสร้างภาพที่ไม่ใช่ตัวคุณเพียงแค่สร้างความประทับใจชั่ววูบให้กับคนอื่นอาจจะได้ผลแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เมื่อกาลเวลาพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้สามารถรักษาคำพูดได้
ดังนั้นก่อนจะสร้างความประทับใจให้คนอื่น ลองจริงใจกับตัวคุณเองดูก่อนว่าสิ่งที่คุณพูด คือสิ่งที่คุณฟังแล้วคุณมีความสุขเองหรือเปล่า คุณประทับใจกับคำพูดของตัวเองรึเปล่า เพราะถ้าคุณพูดไปแล้วข้างในใจคุณเหงื่อแตกทันทีหลังจากที่พูด การสื่อสารตรง ๆ คงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
4. กล้าที่จะสื่อสาร
แน่นอนว่าต่อให้คุณพยายามที่จะทำทุกอย่างในทรัพยากรที่คุณมีในปัจจุบันแล้ว บางครั้งเรื่องที่อยู่เหนือการคาดการณ์ของคุณก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และเมื่อคุณรับรู้แล้วว่าคุณไม่สามารถจัดการได้ ทางเลือกที่คุณควรจะทำก็คือ “ สื่อสาร “ ให้บุคคลที่คุณให้คำสัญญารับทราบว่า คุณไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ และคุณมีแผนในการรักษาคำสัญญาอย่างไร จะมีอะไรผิดแปลกไปจากเดิม ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายอาจจะผิดหวังที่ผลลัพธ์ที่คุยกันไว้แต่แรกไม่ได้เกิดขึ้น แต่พวกเขาจะสามารถรับรู้ได้ว่า คุณให้เกียรติกับคำพูดที่ให้ไว้กับเค้าจริง ๆ ถึงวิธีนี้อาจจะไม่ใช่การรักษาคำพูดเสียทีเดียว แต่ถือเป็นการ “ รับผิดชอบคำพูด “ ของตัวคุณเองอย่างหนึ่งเหมือนกัน
เพราะมนุษย์เราอยู่ร่วมกันด้วยความรู้สึกและความไว้วางใจ การรักษาคำพูดก็คือปัจจัยหลักที่จะทำให้คุณได้รับวางใจจากคนรอบตัวในสังคมของคุณ ถ้าคุณหันมาถามตัวคุณเองดู เชื่อว่าก็คงจะมีหลายต่อหลายครั้งที่คุณเสียความรู้สึกเพราะคนอื่นไม่รักษาคำพูดที่ให้เอาไว้กับคุณ คุณจำภาพกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตัวคุณเองในตอนนั้นได้ไหม นั่นคงจะไม่ได้เป็นความรู้สึกที่ดีหรอกจริงไหม ? คุณอยากจะให้ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นกับคนสำคัญรอบตัวคุณจริง ๆ หรือ ? คุณรับได้จริง ๆ หรือที่ตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนที่เคยทำให้คุณผิดหวังคนนั้นในอดีต ?
ในเมื่อคุณมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นผู้นำได้ คุณสร้างองค์กรขึ้นมาในระดับนี้ได้ แน่นอนว่าเนื้อในของทุกคนต้องเป็นคนที่รักษาคำพูดมาก่อนอยู่แล้ว เพราะถ้าหากว่าคุณไม่รักษาคำพูดกับใครเลยหรือแม้แต่กับตัวเองก็ตาม คุณจะไม่มีทางสร้างผลลัพธ์อะไรขึ้นได้เลย ดังนั้นถ้าหากว่าคุณให้ความสำคัญกับการรักษาคำสัญญาและการรับผิดชอบมากขึ้นสักหน่อย มีสติกับการพูดมากขึ้น วางแผนมากขึ้น จริงใจกับตัวเองมากขึ้น และสื่อสารให้บ่อยขึ้น เชื่อว่าคุณจะสามารถพาตัวคุณเองและคนรอบตัวของคุณเดินหน้าต่อเพื่อสร้างผลลัพธ์บางอย่างให้กับโลกใบนี้ได้อย่างแน่นอน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : @LifeEnricher
Facebook: TheLifeEnricher
โทร: 02-017-2758, 094-686-6599