หมด passion

...6 วิธีปลุกไฟเมื่อ หมด passion ...

            เคยไหม? หมด passion ในการใช้ชีวิต เพราะมีเป้าหมายที่ท้าทายขีดความสามารถของเราหลายอย่าง บางคนมีเป้าหมายช่วงต้นปีว่าอยากจะสร้างผลลัพธ์หลาย ๆ อย่างให้กับตัวเอง บางคนบอกว่าจะตั้งใจลดน้ำหนักฟิตหุ่นแล้ว สงกรานต์นี้เจอกัน ! หรือบางคนอาจจะบอกว่าปีนี้จะต้องได้ผลการเรียนที่ดีขึ้น ! บางคนบอกว่าอยากจะเพิ่มรายได้ของตัวเองให้มากขึ้น 30% ! ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าทุกคนในศักยภาพมากพอที่จะทำให้ความฝันและความต้องการของตัวเองเป็นจริงได้ มนุษย์เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดให้เกิดขึ้นมาบนโลกได้แล้วนับไม่ถ้วน เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในปัจจุบันก็อาจจะเป็นสิ่งที่คนสมัย 500 ปีก่อนคิดไม่ถึงเลยก็เป็นได้ ดังนั้นไม่มีความฝันไหนไกลไม่ถึงแน่นอน ตัวอย่างง่าย ๆ ของคนที่ฝันไกลแล้วก็พุ่งชนเต็มที่ก็คือ Elon musk ที่ทุกคนรู้จักกันดี เขามีเป้าหมายที่จะสร้างพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยบนดาวอังคาร ใช่ครับ… ดาวอังคาร นี่อาจจะเป็นหนึ่งความบ้าบิ่นที่หลาย ๆ คนในยุคปัจจุบันมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ เหมือนตอนที่เรายังไม่สามารถสัญจรทางอากาศได้แล้วหลาย ๆ คนแคลงใจกับความฝันของพี่น้องตระกูลไรท์นั่นแหละ

             คำถามก็คือ ในเมื่อทุกคนก็มีเป้าหมายกันทั้งนั้น แต่ทำไมไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายของตัวเองได้ ? มีหลายคนตั้งเป้าไว้ว่าจะลดน้ำหนักตอนต้นปี แต่ถึงเวลาปลายปีกลับมีอยู่ไม่กี่คนที่สามารถทำให้รูปร่างตัวเองเป็นไปตามเป้าหมาย หรือได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ มีหลายคนที่บอกว่าอยากได้รายได้เพิ่ม แต่สุดท้ายก็ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิมอยู่ อะไรคือความแตกต่างที่ทำให้บางคนทำได้ และบางคนทำไม่ได้

             บางคนอาจจะตอบว่า “ เพราะคนสำเร็จเก่งกว่า “ หรือว่า “ เพราะพวกเขามีทรัพยากรมากกว่า “ แน่นอนว่าสององค์ประกอบนี้ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าคุณสังเกตดี ๆ คนที่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการบางครั้งก็ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด หรือเป็นคนที่มีทรัพยากรเยอะที่สุดเสมอไป คำตอบจริง ๆ ที่ทำให้คนสำเร็จสร้างผลลัพธ์ตามเป้าหมายได้อย่างแตกต่างก็คือ พลังในการ Focus นั่นเอง

             หลายครั้งที่เห็นคนที่มีความสามารถหลายคนไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ให้กับตัวเองได้ หรือบางคนมีทรัพยากรมากแค่ไหนแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการได้ ถ้าพูดถึงเรื่องออกกำลังกาย คนที่เคยมีประสบการณ์เล่นกีฬามาก่อนก็อาจจะไม่ได้รักษารูปร่างได้ดีกว่าเสมอไป หรือคนที่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อลู่วิ่งราคาเหยียบแสนมาใช้งานที่บ้าน อาจจะจบด้วยการได้ราวแขวนผ้าราคาแพงก็ได้ แต่คนที่ Focus สูง คนที่จดจ่ออยู่กับการสร้างผลลัพธ์ที่ตัวเองอยากจะได้ตลอดเวลาจะหาวีทางมาแก้ไขปัญหา หรือเติมสิ่งบกพร่องให้กับตัวเองเพื่อเป้าหมายได้เสมอ พวกเขาอาจจะไม่เคยมีประสบการณ์การเล่นกีฬามาก่อน ไม่เคยมีแม้แต่รองเท้าวิ่งคู่แรกด้วยซ้ำ แต่พวกเขาศึกษาหาวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม พวกเขาอาจจะไม่มีกำลังจ่ายมากพอที่จะซื้อลู่วิ่งราคาสูงมาใช้ส่วนตัว แต่พวกเขาก็จะหาวิธีให้ตัวเองได้วิ่งได้ใช้แรงได้เอง นี่คือความแตกต่างที่จะสร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่คุณคิด

             จุดนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะเคยผ่านความรู้สึกนี้มาว่า ตอนตั้งใจว่าจะทำก็กำลังใจมาเต็มที่ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ แล้วไฟมันก็เหมือนจะค่อย ๆ มอดลงทีละนิด พอเจอปัญหาเข้ามาไฟก็เหมือนจะมอดลงไปอีก ยิ่งต้องทำเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่อาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยรู้สึกท้อก็ยิ่งทำให้ไฟหมดเร็วขึ้น แล้วคนที่สามารถ Focus ได้ตลอดเวลา คนที่มีแรงขับเคลื่อนตัวเองตลอดเวลาเขาทำได้อย่างไรกัน ลองไปดู 6 เทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณสามรรถจดจ่อกับการพุ่งชนเป้าหมายได้ตลอดเวลากัน

 

1. เมื่อหมด passion เราต้องชัดเจนว่าต้องการอะไรจริง ๆ 

             ทุกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากคุณไม่ชัดเจนสุด ๆ ว่า คุณต้องการอะไร คุณต้องการสิ่งนั้นเพื่ออะไร สิ่งนั้นจะให้อะไรกับคุณบ้าง และคุณต้องการมันมากแค่ไหน

             คราวนี้ความชัดเจนแค่ไหนถึงจะเรียกว่า “ ชัดเจนสุด ๆ “ ล่ะ ? ถ้าบอกว่าอยากมีตัง บอกว่าอยากหุ่นดี ทุกคนก็น่าจะมีความต้องการแบบนี้อยู่แล้ว แต่ทำใมความต้องการระดับนี้ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ให้กับทุกคนได้ ?

             คำตอบก็คือ คำว่า “ ชัดเจนสุด ๆ “ คือคุณจะต้องสามารถบอกได้ว่า ที่คุณบอกว่าคุณอยากหุ่นดี คุณอยากจะหุ่นดีไปเพื่ออะไร ? คุณอยากจะทำให้ตัวเองน่าดึงดูด หรือคุณอยากจะทำให้ตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้น ? แล้วถ้าคุณบอกว่าคุณอยากจะดูน่าดึงดูดมากขึ้น ความน่าดึงดูดนี้จะให้อะไรกับคุณบ้าง ? คุณจะรู้สึกดีเวลาที่มีคนมาชื่นชมตัวคุณ หรือคุณจะรู้สึกดีถ้าเกิดว่าคนที่คุณตกหลุมรักหันมาสนใจความเปลี่ยนแปลงของคุณ ? แล้วที่คุณบอกว่าอยากจะมีความมั่นใจมากขึ้น ความมั่นใจนั้นจะให้อะไรกับคุณ ความมั่นใจทำให้คุณกล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วคุณจะมีโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้น ? หรือความมั่นใจจะทำให้คุณกล้าเข้าสังคมมากขึ้น กล้าสู้หน้ากล้าสื่อสารกับคนมากขึ้น ? หรือความมั่นใจนั้นจะทำให้คุณสามารถแต่งตัวในแบบที่คุณต้องการได้ ? แล้วถ้าคุณแต่งตัวตามความต้องการได้จะให้อะไรกับคุณ ฯลฯ

             ถ้าคุณสามารถตอบคำถามที่ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่า ถ้าได้แบบนั้นแล้วดีอย่างไร หรือ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้จะได้อะไร จนคุณเจอคำตอบที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเนี่ยแหละ สิ่งที่ทำให้คุณอยากจะเริ่มต้นสร้างผลลัพธ์นี้ นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ลองคิดสภาพดูว่าถ้าคุณไปพบแพทย์แล้วถูกสั่งมาว่า ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายอย่างจริงจัง คุณจะมีชีวิตได้ไม่เกินปีนี้ เชื่อเลยว่าถ้ามีแรงขับเคลื่อนระดับนี้คุณจะสามารถหันมาออกกำลังกายเอาเป็นเอาตายแบบไม่มีเงื่อนไขแน่นอน ดังนั้นจงหาคำตอบของตัวเองให้เจอว่าคุณอยากได้สิ่งนี้เพื่ออะไร

 

2. มองหาข้อผิดพลาดของตัวเอง Spot the error เมื่อหมด passion

             เมื่อคุณได้ความชัดเจนกับตัวเองแล้ว เชื่อว่าคุณจะสามารถหาขั้นตอนหรือเส้นทางการเดินทางของคุณเพื่อเป้าหมายคุณได้แน่นอน ถ้าเป้าหมายของคุณเป็นการลดน้ำหนัก คุณจะหาโปรแกรมการออกกำลังกาย หรือวิธีการทานอาหารอย่างเหมาะสมได้แน่นอน และแน่นอนว่าทุกวิธีทางและทุกเส้นทางจะเกิดปัญหาแน่นอน ซึ่งนี่จะเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของคุณในการบรรลุเป้าหมายเพราะเมื่อเกิดปัญหาแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือ “ ไฟมอด “ นั่นเอง

             อย่างแรกเลย ตั้งสติดึงตัวเองเอาไว้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมีข้อความเพียงอย่างเดียวที่จะบอกคุณก็คือ “ คุณมีเรื่องที่สามารถปรับปรุงได้ “ ปัญหาไม่ได้มีหน้าที่บอกคุณว่าคุณทำไม่ได้ ปัญหาแค่บอกคุณว่าคุณต้องแก้อะไรบ้างเพียงแค่นั้น และสิ่งที่คุณต้องตั้งสติอีกอย่างหนึ่งก็คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าวิธีการของคุณจะผิดตั้งแต่ต้นจนจบ ปัญหาที่เกิดขึ้นบอกคุณว่ามีบางจุดที่คุณจำเป็นจะต้องแก้ไขเท่านั้น ลองเปรียบเทียบกับเวลาที่รถเสียดู เมื่อรถของคุณมีอาการไม่ปกติ คุณก็จะเริ่มมองหาจุดบกพร่องว่าเกิดอะไรขึ้น ยางรั่วหรือเปล่า หรือว่าน้ำมันเครื่องใกล้ได้เวลาเปลี่ยนแล้ว หรือถ้าคุณไม่สามารถระบุปัญหาเองได้คุณก็จะพาตัวเองไปปรึกษาคนที่มีความรู้เฉพาะทาง และเมื่อคุณได้ข้อสรุปแล้วว่าปัญหาคืออะไร สิ่งที่คุณทำต่อไปก็คือ คุณแค่แก้ปัญหาในจุดทีเกิดขึ้นเท่านั้น ถึงยากรั่วยางแตกคุณก็เปลี่ยนยาง หรือถ้าเกิดว่าผ้าเบรคคุณเริ่มเสื่อมคุณก็จะเปลี่ยนแค่จุดนั้น คงจะไม่มีใครที่รถยางแตกแล้วบอกว่ารถคันนี้ไม่เวิร์คแล้ว และซื้อคันใหม่ทั้งคันหรอก จริงไหม ?

หมด passion

3. ตัด Error ออกไปจากชีวิต หากคุณรู้สึก หมด passion

             เมื่อคุณมองหาปัญหาเจอแล้ว ตอนนี้เป็นส่วนที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนหรือวางแผนแล้วว่า ด้วยทรัพยากรที่คุณมีอยู่คุณสามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณหาเวลามาดูแลรูปร่างตัวเองยากเหลือเกิน คุณควรจะต้องตัดสินใจว่าคุณจะแบ่งเวลาส่วนไหนมาให้กับการดูแลรูปร่างตัวเอง คุณอาจจะลดเวลาในการดูซีรีส์ของคุณลงสักวันละ 30 นาที หรือคุณอาจจะลดความถี่ในการออกไปสร้างสรรค์ลดสักหน่อยเพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอให้กับการดูแลตัวเองของคุณ ? สำคัญคือคุณจะต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่คุณควรจะตัดจริง ๆ ไม่ใช่ว่าคุณรู้ทั้งรู้ว่าอะไรที่ดีกับเป้าหมายของคุณ และอะไรที่ไม่ดีกับเป้าหมายของคุณ ซึ่งถ้าคุณนึกย้อนไปถึงตอนที่คุณชัดเจนกับตัวเองในข้อแรกแล้ว เชื่อว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการตัด error หรือข้อพกพร่องนี้ออกไปเลย

 

4. ใช้เครื่องมือช่วย

             เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวันแบบนับไม่ถ้วน จนบางครั้งคุณอาจจะกำลังจดจ่อกับสิ่งที่คุณกำลังรับผิดชอบอย่างอื่นจนลืมจัดสรรเวลา เพราะบางคนมีอาการแบบนี้จริง ๆ เวลาจดจ่อกับอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่ก็จะเหมือนอยู่ในโซนจมไปกับกิจกรรมนั้น  ๆ โดยที่ลืมดูเวลาไปเลย เคยเห็นหลายคนอยู่เหมือนกันที่เวลาสมองแล่น เครื่องติดแล้วก็จะง่วนอยู่กับการทำงานขนาดที่ว่าน้ำไม่ดื่ม หรือไม่เข้าห้องน้ำเลยทีเดียว

             ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ก็คือการใช้เครื่องมือช่วย ตอนนี้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามีเครื่องไม้เครื่องมือให้คุณเลือกอยู่นับไม่ถ้วน และหนึ่งในเครื่องมือที่เข้าถึงและใช้ง่ายทึ่สุดก็คือฟังค์ชั่นนาฬากิปลุกใน Smartphone ของคุณนั่นแหละ ตั้งไว้เลยว่าคุณมี Action ไหนตอนเวลาเท่าไหร่ คุณจะได้ไม่โดนดูดกับอะไรบางอย่างมากเกินไปจนลืมเป้าหมายของคุณไป เช่น การสะกดจิตบำบัดอารมณ์ เป็นต้น

หมด passion

5. สร้าง / เข้าร่วม community

             ถ้าเครื่องมือในหัวข้อก่อนหน้านี้เป็นเครื่องมือเชิงเทคโนโลยี กลุ่มสังคมจะเป็นเครื่องมือเชิงเพื่อนร่วมทางที่จะทำให้คุณอยู่ในร่องในรอยที่คุณตั้งใจไว้ได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ถ้าคุณอยากจะดูแลรูปร่างตัวเองก็ควรจะต้องหากลุ่มเพื่อนที่มีเป้าหมายเดียวกัน และเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งเพื่อนร่วมทางของคุณจะช่วยคุณแก้ไขข้อบกพร่อง รวมทั้งคอยจี้คุณให้ลุกขึ้นมาในวันที่คุณเนือยลงไปด้วย และในทางกลับกันตัวคุณเองก็จะเป็นคนที่คอยกระตุ้นเพื่อนของคุณ เป็นกลุ่มสังคมที่คอยช่วยเหลือกัน และเป็นเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกันที่พร้อมจะเดินไปกับคุณ หรือถ้าเกิดว่าคุณสนใจเรื่องการเพิ่มรายได้ด้วย NFT หรือ Crypto คุณก็ควรจะต้องเข้าหาสังคมที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หรือแสดงความคิดเห็นกัน

             พยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้มีแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณอยู่รอบตัวคุณอยู่ตลอดเวลา แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะออกนอกลู่นอกทาง คุณจะอยู่ในสภาวะที่คุณกำลัง “ อิน “ กับเรื่องบางเรื่องอยู่ตลอดเวลา และความดีงามของคุณก็คือ เรื่องที่คุณกำลัง “ อิน “ อยู่นั่นจะสร้างผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้

 

6. สร้าง Milestone ในทุก ๆ วัน

             แน่นอนว่าเป้าหมายยิ่งใหญ่แค่ไหน เส้นทางที่จะต้องเดินก็ยาวขึ้นและยากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราเอาแต่มองว่าเมื่อไหร่จะถึงเป้าหมายสักที คุณก็อาจจะรู้สึกว่าคุณกำลังเหนื่อยอยุ่ตลอดเวลา คุณจะเห็นแต่เส้นทางที่ไม่ว่าจะชะเง้อดูแค่ไหนก็ยังไม่เห็นเส้นชัยเสียที

             ดังนั้นเทคนิคง่าย ๆ ก็คือการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ให้คุณได้เห็นพัฒนาการของตัวเองทีละเล็กละน้อย ถ้าสมมติว่าคุณอยากจะลดน้ำหนักสัก 20 กิโล นั่นอาจจะเป็นเป้าหมายที่ต้องใช้เวลาหลายเดือน และในระหว่างทางมันก็คงจะไม่แปลกใจอะไรถ้าคุณจะรู้สึกท้อเหลือเกิน แต่ถ้าคุณเริ่มตั้งเป้าหมายระยะสั้นทีละเล็กทีละน้อย เช่น คุณอาจจะคาดหวังว่าคุณจะค่อย ๆ ลดได้อาทิตย์ละ 0.5 กิโล คุณก็จะเอาตัวเองออกมาจากภาพที่เห้นว่า 20 กิโลมันไกลเสียเหลือเกิน แล้วหันมียินดีกับความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สะสมไปจนกลายเป็นความสำเร็จที่คุณคาดหวังไว้ตามเป้ามหายของคุณได้

             ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเทคนิคข้อนี้คือ คุณจะสร้างนิสัยการวัดผลให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้คุณพัฒนาขึ้นมาแค่ไหน มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางไหม เพราะบางครั้งเป้าหมายที่ใหญ่ก็มักจะมากับกรอบเวลาที่นานสัมพันธ์กับเป้าหมายของคุณ และคุณอาจจะเผลอหยุดนิ่งและปลอบใจตัวเองว่า “ ยังเหลือเวลาอีกเยอะ “ เพราะงั้นการติดตามผลลัพธ์ระยะสั้นจะช่วยลดการชะล่าใจลักษณะนี้ได้อีกด้วย

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @LifeEnricher

Facebook: TheLifeEnricher

โทร: 02-017-2758, 094-686-6599

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า