หลักสูตรภาวะผู้นำ ทำให้องค์กรเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?

ผู้นำ คือ ผู้ขับเคลื่อนบริษัท ทั้งเรื่องทิศทางการเติบโต ดูเเลทีมงาน และระบบต่างๆให้มีประสิทธิภาพ พร้อมดำเนินงานได้อย่างสะดวกที่สุด ซึ่ง หลักสูตรภาวะผู้นำ จากการวิจัยของ Institude of Leadership Management เรื่อง การโค้ช หรือ เทคนิคโค้ชชิ่ง ออกมาว่า องค์กรหลายแห่งได้เลือกใช้เทคนิคการโค้ชเป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคคลากรของ จาก 80% ของบริษัทที่สอบถาม พบว่า เคยใช้เทคนิคการโค้ช หรือ กำลังใช้เทคนิคนี้อยู่ และ อีก 9% วางแผนที่จะใช้เทคนิคนี้ในอนาคต

องค์กรต่างๆ วัดความสำเร็จกันอย่างไร?

93% ใช้การโค้ชประเมินผลในบางรูปแบบ
70% ผ่านระบบการประเมินผลที่มีอยู่แล้ว
48% ประเมินผลจาก KPI ของธุรกิจ
40% ประเมินผลแบบ 360 องศา
39% ประเมินประสิทธิภาพของการโค้ช

จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า การโค้ช เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในองค์กร การวัดค่าความสำเร็จอาจจะไม่ได้เกิดเป็นตัวเลขเสมอไป แต่คือ การที่คุณได้ค้นพบว่าความสำเร็จเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในชีวิต

เพราะฉะนั้นจึงเกิดคำว่า Manager as Coach หรือ ผู้จัดการที่เสมือนโค้ช

53% คาดหวังให้ผู้จัดการแผนกเป็นโค้ชด้วย
34% ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโค้ช

การที่ผู้จัดการเป็นโค้ชด้วยนั้นก็เพราะ ทีมงานและเขาต้องทำงานด้วยกันโดยตรง หากผู้จัดการเข้าใจทีมงานมากขึ้น และ สามารถพัฒนาทีม ทั้งเรื่องการทำงานและจิตวิญญาณได้ด้วย ก็จะยิ่งทำให้องค์กรนั้น เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ทำไมองค์กรหลายแห่งเลือกใช้เทคนิคการโค้ช?

53% โค้ชเพื่อการพัฒนาตัวเองของบุคคลากร
26% โค้ชเพื่อการพัฒนาศักยภาพเฉพาะทาง
21% โค้ชเพื่อความเป็นผู้นำ และพัฒนาจัดการงานได้ดีขึ้น
19% โค้ชเพื่อพัฒนาทีมบริหารระดับสูง
12% โค้ชเพื่อความก้าวหน้าขององค์กร

จุดประสงค์ของการโค้ช คือ การพัฒนาบุคคล มากกว่า การมุ่งไปสู่เป้าหมายขององค์กร เพราะเมื่อบุคคลนั้นมีเป้าหมาย และได้ถูกพัฒนาไปแล้ว เป้าหมายขององค์กรที่ได้ตั้งไว้ร่วมกัน ก็ไม่ยากเกินที่เอื้อมถึงได้

แล้วใครบ้างในองค์กร ที่ควรได้รับการโค้ช?

จากการสำรวจพบว่า
85% คือ ผู้บริหารระดับสูง และ ผู้อำนวยการ
85% คือ ผู้บริหารระดับกลาง
63% คือ ทีมงานที่ตำแหน่งรองลงมาจากบอร์ดบริหาร
52% คือ ทีมงานทั่วไป

เพราะฉะนั้น ผลสรุปจากผลสำรวจ กล่าวได้ว่า ผู้บริหารตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปควรได้รับการโค้ชมากที่สุด พร้อมระดับอื่นๆรองลงมา และ ทุกคนในองค์กรควรได้รับการโค้ช เพื่อประสิทธิภาพ ที่ดียิ่งขึ้น

ถ้าอย่างนั้น เราจะหาโค้ช จากที่ไหนดีละ?

ก็พบว่า มีอยู่ 2 ทางค่ะ ในการหาโค้ช ซึ่งผลสำรวจออกมาว่า 83% มีโค้ช จากภายในองค์กรอยู่แล้ว และ 65% จ้างโค้ชมืออาชีพจากภายนอกเข้ามา ซึ่งการที่องค์กรนั้นมีโค้ชอยู่แล้ว อาจจะหมายความได้ว่า โค้ชได้รับการสอนเทคนิคการโค้ชชิ่งแบบครบกระบวนท่า เพื่อสามารถโค้ชทีมของพวกเขาได้นั่นเอง การโค้ชแบบส่วนตัว 1 on 1 จะยิ่งทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และผู้ที่ได้รับการโค้ช หรือ โค้ชชี่ จะได้ค้นพบคำตอบที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน

ใครที่สามารถเป็นโค้ชภายในองค์กรได้บ้าง?

83% คือ ผู้จัดการแผนก
65% คือ ทีมงานในแผนก
43% คือ HR (ฝ่ายบุคคล)
40% คือ โค้ชเฉพาะทาง
36% คือ  ทีมงานแผนกอื่นๆ

             ซึ่งการที่ เปอร์เซ็นต์สูงสุดสำหรับ คนที่สามารถเป็นโค้ชในองค์กร คือ ผู้จัดการแผนก นั่นเป็นเพราะ ผู้จัดการ คือคนที่ใกล้ชิดกับทีมงานมากที่สุด การที่ผู้จัดการได้เรียนรู้เทคนิคการโค้ช นอกจากเขาจะมีเทคนิคการฟังที่ดีแล้ว เขาจะสามารถดึงศักยภาพของทีมงานของเขาออกมาได้อย่างตรงจุดที่สุด การพัฒนาบุคคลากรที่ดีที่สุด คือ การที่โค้ชชี่ หรือ ผู้ที่ได้รับการโค้ช พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และ เป็นผู้เล่นจริงๆ โดยที่เขาเลือกเอง ไม่ใช่ คนอื่นสั่งให้เขาเป็น และหากเขาได้รับกระบวนการโค้ชอย่างถูกวิธี ไม่ใช่เเค่เพียงการทำงานที่ดีขึ้น และชีวิตของเขาก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @LifeEnricher

Facebook: TheLifeEnricher

โทร: 02-017-2758, 094-686-6599

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า