1. ที่ๆสวยที่สุดไม่ได้อยู่ที่สถานที่ 

เคยเป็นไหม ที่ไปสถานที่ที่สวยมาก
แต่ไม่ได้รู้สึกสวยขนาดนั้น
ที่ที่สวยที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่า ที่นั้น คือ ที่ไหน

แต่คือที่ของจิต ที่ตีความและให้ความหมายตามมุมมอง
ที่เราจะเลือกจะให้ผ่าน Belief System ของเรา
ดังนั้นฟังความคิดตัวเองให้ทันเราจะได้ยินอะไร
จากตัวเราเองว่าจริงๆ จิตใจเรา ชอบ/ไม่ชอบอะไร

 

2) จิตใจมันตะกละ เหมือนหมูที่กินไม่มีอิ่ม สวย/ดี/อร่อย แค่ไหนยังไงก็เบื่อ งานสถาปัตยกรรมปราสาทต่างๆที่เห็นเเล้ว “ ว้าว” แต่พอเห็นเยอะๆ หลายๆที่ และมีความเดิมๆก็กลายเป็นความธรรมดา ทำให้เราถามตัวเองตลอดว่า…เราต้องการเพิ่มอีก เพิ่ม อีก ดีขึ้นอีก.. ความน่าสนใจคือ.. ถ้าจับทัน “ มันก็จะอิ่มเอง”

ดังนั้น จิตใจที่ไม่ถูกฝึก ต่อให้เติมเท่าไรก็ไม่มีวันเต็ม เลยตอกย้ำอีกทีว่า ความอิ่มใจ.. ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่เรามี หรือได้มาแต่คือสติปัญญาที่รู้ทัน แต่มันคือ ความหิวของจิตที่ตะกละ แค่นั้นเอง…

3) ระวังใจแอบใช้อดีต ลดคุณค่าปัจจุบัน ถ้าไม่ทันตั้งตัวเองนี่ก็จะมองเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่เราจะบอกว่า

“อะไรดีกว่าอะไร”
“ วิวสวยกว่านี้ เราก็เคยเห็นมาเเล้ว”
“เบียร์เมืองนี้ ไม่อร่อยเท่ากับประเทศก่อนหน้านี้”
“ เครื่องบินนี้ บริการไม่ดีเท่าสายการบินนี้”

เพราะ จิตใจ เราก็มีการเปรียบเทียบแบบไม่ทันรู้ตัว จากประสบการณ์ในอดีตเสมอ และสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือ การที่เราพลาดการเสพความสวยงามของปัจจุบัน เพราะชีวิตจริงมันมีเเค่ปัจจุบัน หากมองชีวิตผ่านปัจจุบันโดยไม่อิงจากอดีตได้ “ก็จะเห็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็น” 

               นั่นคือ ประสบการณ์ตรงหน้าแบบ 100% จริงๆ

4. การพักผ่อนที่ดี ต้องมีการเตรียมพร้อม เตรียมเรื่องเวลา เงิน สุขภาพเเละจิตใจ เวลา ..เเน่นอนถ้าจะเที่ยวยาวๆ 9 วัน ก็ต้องมีการจัดสรรเวลาที่ดี นั่นหมายถึง เวลาเคลียร์งานก่อนมา เวลาการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนเที่ยว

การเงินที่พร้อมถ้ามีเยอะก็ใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตได้ สั่งอาหารสบายใจ ช็อปปิ้งก็จะสนุก เงินซื้อความสะดวกสบาย คุณภาพบริการ สินค้าตามมูลค่า ก็ว่าตามกันไป

สุขภาพ หากร่างกายแข็งแรงเดินเยอะ เดินชมเมืองนานๆก็ไม่ปวดไม่เมื่อย หากแก่ตัวไป อาจจะเดินทางไม่สะดวก ไม่สนุก ยังมีเเรง รีบทำเถอะ สิ่งที่อยากทำ

และสุดท้ายสำคัญสุดคือ จิตใจ ถ้ามาเที่ยวเเต่มัวครุ่นคิดอดีต กังวลเรื่องอนาคตมากเกินไป สุดท้ายเราอาจจะกำลังลืมไปว่า “เรามาเที่ยวอยู่นะ” ดังนั้นคนที่เตรียมพร้อม คนที่วางแผนจัดการบริหาร เวลา สุขภาพ เงิน เเละจิตใจได้ดีพร้อมก็จะได้ คุณค่าสูงสุดจากการพักผ่อนสูงสุด

5. คำว่าเที่ยวต่างประเทศ ไม่ใช่สถานที่แต่คือผู้คน
ผมจับตัวเองได้ชัดเลยว่า ตึก วิว อาหาร สิ่งของ มันก็เดิมๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมยังตื่นเต้นเสมอคืน “คน”
คนในแต่ละพื้นที่เนี้ยเเหละ
ที่ทำให้แต่ละประเทศน่าสนใจ
วินัยคน มารยาทคน ประวัติศาสตร์คน
วัฒนธรรมคน
.
ถึงเเม้ต่างเชื้อชาติ ต่างสีผิว ต่างความเชื่อ
แต่ทุกคนจริงๆแล้ว เหมือนกัน คือ..
ไม่อยากทุกข์และอยากมีสุข…
และทุกๆอย่างก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจาก
คนที่อยากมีความสุขและไม่อยากทุกข์เนี่ยเเหละ

6. ธรรมชาติกำหนดคน
เหนือสิ่งอื่นใดคือธรรมชาติเนี่ยแหละ
ที่ทำให้คนเป็นคนในแต่ละพื้นที่
สร้างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ

ผมกำลังพูดถึงเรื่อง ภูมิประเทศ…
พื้นที่ราบ หรือภูเขา มีสัตว์อะไรอยู่แถวนั้น
พืชล่ะเป็นประเภทไหน ใกล้หรือไกลทะเล
มีแม่น้ำไหม มีแร่ธาตุอะไรรึเปล่า
ทรัพยากรทางธรรมชาติตรงนั้นเเหละ !!  “กำหนดคน”

เพราะสุดท้ายสิ่งเหล่านั้น
กำหนดการทำมาหากิน ที่อยู่อาศัย
เเละเริ่มเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งรากฐาน
สร้างสังคมเล็กๆ แนวคิด ความเชื่อ
วัฒนธรรม จนเป็นประเทศใหญ่ๆ
จนเป็นการแลกเปลี่ยน
ค้าขายระดับประเทศ
เเละเป็นการสื่อสารกันทั้งโลก

7. ผู้นำในแต่ยุคอาจจะต้องการความสามารถที่ต่างกัน
ผู้นำที่ไม่เด็ดขาด อย่างพระเจ้ารุดวิกที่2 ที่หลงในศิลปะมากเกินไป ไม่สนใจการเมืองสุดท้ายก็ต้องโดนปลดเพราะไม่ได้สร้างประโยชน์ใ่ห้บ้านเมือง ณ วันนั้น ..

เเต่วันนี้..ปราสาทนอยชวานชไตน์ทำเงิน ที่พระเจ้ารุดวิคที่ 2 ได้สร้างขึ้นให้ประเทศเยอรมันเยอะเเยะมากมายต่อปีจากการท่องเที่ยว และยังเป็นโมเดลปราสาทของ WaltDisney ซึ่งกลายเป็น Disney Land หลายที่ทั่วโลก สร้างความสุขให้คนมากมาย

ดังนั้น ความเก่งของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน และในเเต่ยุคก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น “ต้องเก่ง ถูกที่ ถูกเวลา” ไม่งั้นคนก็ไม่เห็นค่าคุณ

8. คนเราชอบให้คุณค่ากับสิ่งที่เราไม่มี
ในพระราชวังเชริน์บรุนน์ เวียนนา ณ กรุงเวียนนา ยุคที่พระนางมาเรีย เทเรซ่าเป็นผู้นำ
ปกครองเมือง จะมีห้องนั่งเล่นหลายห้องเลยที่จะตกแต่งเต็มไปด้วย เครื่องปั้นดินเผาและ ภาพเขียนจากประเทศตะวันออก ( จีน ) เรียกว่าเอาเข้ากรอบอย่างดี สลักลวดลายทองคำขึ้นผนังเป็นงานศิลป์เต็มห้องโถง ในขณะที่เราคนเอเชียก็ชอบสะสมงานศิลป์จากทางตะวันตก
.
ดังนั้นต่างคน ต่างให้คุณค่ากับสิ่งที่หายากสำหรับตน.. และมูลค่าทั้งหมด ใครเป็นคนให้คุณค่ามันล่ะ…. คำตอบคือ “ จิตใจ ที่ตะกละเป็นหมู เหมือนข้อ 2 ไง”
.
ดังนั้นคำสุภาษิต “Grass always greener on the other side”  ยังคงใช้ได้เสมอตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เพราะต่อให้เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกไปขนาดไหน… คุณภาพจิตใจคน ไม่เคยเปลี่ยน ( ถ้าไม่ฝึก )

9. เบียร์ที่อร่อยที่สุด คือเบียที่ไหน ?
หลังจากกินเบียสด Local ที่ไทย เวียดนาม พม่า ญี่ปุ่น
สิงคโป ไต้หวั่น ฮ่องกง จีน เกาหลี รัสเซีย ฝรั่งเศส อิตาลี
สวิซ เยอรมัน เชค สโลวาเกีย ออสเตรีย ฮังการี
ก็ได้คำตอบว่า…

เบียที่ว่าอร่อย.ก็ไม่สำคัญ เท่ากับ เราชนแก้วกับใคร..
เเละสำคัญว่า เราชนกับใคร คือ…

มื้อนี้ใครจ่าย #พ่อจ่าย 555555

                         

            “เพราะการเดินทางทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ ร่วมเดินทางไปกับเรา

                                             กับครอบครัว LifeEnricher”

 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Line : @LifeEnricher

Facebook: TheLifeEnricher

โทร: 02-017-2758, 094-686-6599

ใส่ความเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า