SelfBreakThrough
เมื่อพูดถึงการสร้างรายได้ให้กับตัวเองแล้ว เชื่อว่าทุกคนคงจะมีกลยุทธ์ในการหาทรัพยสินเข้ากระเป๋าที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง บางคนเลือกที่จะเติบโตในบริษัทและองค์กรที่ตนเองไว้ใจ
การพัฒนาของมนุษย์เราเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และทุก ๆ ช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ก็มักจะมียุคลสมัยที่โลกเราพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้การมีเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน
ในการทำงานยุคปัจจุบันที่โลกแห่งการสื่อสารเปิดกว้างและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผู้คนย่อมจะเข้าถึงกันได้มากกว่าเดิม องค์กรหลายองค์กรก็สามารถหาบุคลากรที่เหมาะกับงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมผ่านโลกออนไลน์
ด้วยสัญชาติญาณของการเป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกันของมนุษย์เรามีการสื่อสารเป็นองค์ประกอบสำคัญ มนุษย์เราสื่อสารกันเพื่อทำความเข้าใจกัน มนุษย์เราสื่อสารกันเพื่อทำงานร่วมกัน มนุษย์เราสื่อสารกันเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กัน
“ ผู้นำ ” ที่หลายคนเข้าใจและให้ความหมายกันในอดีตคงจะหนีไม่พ้นคำว่า “ หัวหน้า ” ที่หมายถึงตัวตนบางอย่างที่คอยบงการและออกคำสั่งเมื่อต้องทำงานเป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกลุ่มในชั้นเรียน
ความสวยงามของสังคมมนุษย์เราอย่างขึ้นคือ การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในทุก ๆ ยุคสมัย ตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีการเริ่มใช้ไฟให้ความอบอุ่น ในขณะที่สิ่งมีชีวิตอื่นยังต้องหวังพึ่งไออุ่นจากแสงอาทิตย์ มีการหยิบจับเอาสิ่งต่าง ๆ
คนหนึ่งคนจะไม่สามารถเรียกตัวเองว่าผู้นำได้จริง ๆ ถ้าหากว่าพวกเขาไม่มี “ ทีมงาน “ ที่คอยเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนองค์กรให้สร้างผลลัพธ์ได้ตามเป้าหมาย หลายคนเข้าใจว่าการเข้าทำงานเป็นผู้นำเท่านั้นที่เลือกทีมงานเข้ามาร่วมงานด้วยกัน แต่จริง ๆ
เก็บเงินไม่อยู่ ! ไม่ใช่เพราะรายจ่าย แต่เป็นเรื่อง นิสัย จิตใต้สำนึกของคุณกำลังกุมเงินอยู่
จิตวิทยา นิสัยการเงิน 4 ประเภท ที่อาจเป็นเหตุทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่ ผมเข้าใจดีเลยครับว่า ปัจจุบันมีของล่อตาล่อใจมากมายที่ทำให้กระเป๋า
เคยสงสัยไหมครับ ในทีมมีคนเก่ง แต่ทำไมไม่เจ๋งในศักยภาพ ? ตอนสัมภาษณ์ดู โปรไฟล์ดี แต่ทำไมตอนลงมือจริง ดูไม่เหมือนที่คุย เรื่องนี้ผมขอบอกเลยนะครับว่า ความผิดนี้อยู่ที่ “คุณ” ทำไมผมถึงบอกว่าอยู่ที่คุณ เรามาดูกันครับ
ถ้าตอนนี้คุณกำลังสู้กับเครียด คุณจะเป็นผู้ที่มีความเครียดอยู่ในกลุ่มไหน ทาย 4 นิสัยความเครียดของคุณจากตัวละคร Harry Potter ช่วงคุณอาจจะเคยเห็นกระแสของการดูแลตัวเองจากความเครียดมากมายเต็มไปหมด แต่คุณกล้ายอมรับไหมครับว่า

ทาย 4 นิสัยความเครียด
ถ้าตอนนี้คุณกำลังสู้กับเครียด คุณจะเป็นผู้ที่มีความเครียดอยู่ในกลุ่มไหน ทาย 4 นิสัยความเครียดของคุณจากตัวละคร Harry Potter ช่วงคุณอาจจะเคยเห็นกระแสของการดูแลตัวเองจากความเครียดมากมายเต็มไปหมด แต่คุณกล้ายอมรับไหมครับว่า ตอนนี้คุณกำลังมองข้ามความเครียด คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นกับคุณ?
งานวิจัยในหลาย ๆ ประเทศกำลังรณรงค์ให้ทุกคน Awarness ตัวเองว่า ความเครียดคือจุดเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วย เช่น ผลวิจัยในอเมริกา เผย 70% เจ้าของกิจการกำลังเจอความเครียดสะสม ! และโรคปัญหาเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่ได้ก็มักจะมาจากความเครียด
ถ้าวันนี้คุณยังมองข้ามและเก็บสะสมความเครียดไว้อยู่ ผมมีตัวอย่างผลกระทบของความเครียดมาให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มผลกระทบหลัก ๆ
- ผลกระทบต่อร่างกาย : ฮอร์โมนผิดปกติ ผมร่วง ความดัน โรคหัวใจ
- ผลกระทบต่อจิตใจ : อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ส่งผลต่อการกระทำพฤติกรรมที่แสดงออก
- ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ : ความเครียดของคุณสามารถถ่ายทอดต่อคนอื่นได้
- ผลกระทบต่อการทำงาน : ประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ลดลง
เห็นไหมครับว่ามันกระทบหลายมิติมาก ๆ และสิ่งที่คุณกำลังคิดหาต้นเหตุของการไม่ได้ผลลัพธ์ ทำแล้วไม่ได้ดั่งใจ คำตอบมันอยู่ตรงนี้ครับ “ความเครียดสะสม”
ซึ่งตรงนี้ผมอยากให้คุณลองปรับ Mindset ดูใหม่นะครับ
“ธรรมชาติของมนุษย์ ทุกคนมีความเครียดเป็นของตัวเอง”
อย่ามองว่าความเครียดคือเรื่องไกลตัวครับ เพราะความเครียดมันคือภัยเงียบที่ไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนใด ๆ ว่า เฮ้ !!! ทุกคน ฉันกำลังจะกัดกินจิตใจของเธอแล้วนะ ดังนั้นการรู้เท่าทัน โอบรับและแก้ไข คือสิ่งที่ควรจะเป็นครับ และวันนี้ผมอยากให้คุณเท่าทันความเครียดมากกว่าเดิมครับ
จึงขอหยิบยกตัวอย่างอาการความเครียดที่เปรียบเทียบกันชัด ๆ กับภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter เพราะคิดว่า เป็นภาพยนตร์ในความทรงจำของทุกคน และให้ง่ายต่อการเข้าใจ ความเครียดหลัก ๆ แบ่งออกเป็นกลุ่มอาการ 4 ประเภท
1. Behavioral Symptoms เปรียบเหมือนกับแฮรี่ พอตเตอร์ ที่เมื่อเวลาปะทะความเครียด ก็จะทำผิดพลาดในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรผิด และมักจะชอบนอนไม่หลับ ปลีกตัวแยกออกจากสังคม อยู่คนเดียว ทบทวนตอกย้ำกับสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

2. Cognitive Symptoms เปรียบเหมือน เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เมื่อเจอกับความเครียดจะมีอาการตัดสินใจได้ช้าลง จากที่เคยแหลมคมเด็ดขาด วิตกกังวล ลนลานมากขึ้น และสิ่งที่ถนัดก็มักจะทำได้ช้าลง เช่นกัน

3. Physical Symptoms เปรียบเหมือน รอน วิสลีย์ กลุ่มนี้จะมีอาการแสดงออกชัดเจนเมื่อเจอสถานการณ์กดดัน ความเครียดที่เผชิญจะถูกแสดงออกด้วยอาการ ปวดหัว เหงื่อออกพิเศษปกติ คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว หรือการกินจุบจิบ บางครั้งการกินจุบจิบที่คุณเป็นอาจจะไม่ใช่นิสัย แต่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังเครียด !!

4. Emotional Symptoms เปรียบเหมือน เดรโก มัลฟอย ที่แสดงออกหน้าสีหน้าและอารมณ์เวลากลั่นแกล้ง แฮรี่ แอนด์เดอะแก๊งไม่สำเร็จ ดังนั้นความเครียดของคนที่เป็นกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวรุนแรง เดี๋ยวฉุนเฉียว บางครั้งก็รู้สึกโดดเดี่ยว ถ้าสะสมมาก ๆ ในระยะเวลานาน ๆ อาจเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้
จะทำอย่างไรเมื่อเจอสัญญาณเตือนความเครียด
อย่างที่บอกครับจุดประสงค์ใน Content นี้ ผมอยากให้คุณเท่าทันความเครียด สำรวจความเครียดให้เป็นฝึกโอบรับและแก้ไข เพราะความเครียดคือตัวขัดขวางความสำเร็จที่น่ากลัวมาก ๆ ก็เหมือนกับ ลอดร์ด โวลเดอมอร์ นั้นแหละครับ
วิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ที่บ้านแบบไม่มีต้นทุน คือ กิจกรรมเสริมในช่วงว่าง ๆ ครับ หรือเมื่อคุณรู้ตัวเองแล้วว่าตอนนี้ ฉันกำลังเครียด ลองทำงานบ้าน ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เล่นกีฬา หรือนั่งสมาธิ ออกไปเที่ยวนอกบ้าน ปรับเปลี่ยนบรรยากาศสิ่งแวดล้อม
ผมเข้าใจคุณครับ ว่าในฐานะนักธุรกิจ คือ ช่วงเวลาสำคัญมาก แต่ลองวางลงแล้วพักดูบ้างครับ สัก 15-20 นาที ให้คลื่นสมองคุณได้ผ่อนคลายบ้าง กลไกสมองเราไม่ได้ต่างจากเครื่องจักรเลยครับ ต้องมีวันพักถอดปลั๊กดับเครื่องเช่นกัน
และถ้าตอนนี้คุณให้ความสำคัญกับการกำจัดความเครียดแล้ว อยากจะสะบัดมันออกไปให้ไกล ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือ หาเวลาพักและออกไปเสพความสุขให้ตัวเองมีแรงทำงานต่อครับ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : @LifeEnricher
Facebook: TheLifeEnricher
โทร: 02-017-2758, 094-686-6599